_____________

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ใหญ่มากกกกกก !!! เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ

















































"ในที่สุดหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการเรือสำราญหรูของโลก รอยัล แคลิเบี้ยน ก็ได้ลบสถิติโลกด้วยการเปิดตัวเรือสำราญ หรูหราลำล่าสุดที่ ประกาศว่าเป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซี" FREEDOM OF THE SEAS "
ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซี ...เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในที่สุดหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการเรือสำราญหรูของโลก รอยัล แคลิเบี้ยน ก็ได้ลบสถิติโลกด้วยการเปิดตัวเรือสำราญ หรูหราลำล่าสุดที่ ประกาศว่าเป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซี" FREEDOM OF THE SEAS อิสรภาพแห่งท้องทะเลหรือฉายา "ก็อดมาเธอร์" อย่างเป็นทางการท่ามกลางสื่อมวลชนและเอเย่นต์จากทั่วทุกมุมโลกไปแล้ว ที่ประเทศอังกฤษ "ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซีส์" (Freedom of the Seas) เรือสำราญขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่งได้ฤกษ์เปิดตัวลงน้ำอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ 2549หากจะถามว่าใหญ่โตขนาดไหนคงบอกชนิดให้ภาพได้คร่าวๆว่า เธอ (ก็ธรรมเนียมตะวันตกยกให้เรือเป็นเพศหญิงนี่คะ) ทำให้เรือลำอื่นๆกลายเป็น "เรือแคระ"ไปในพริบตา ด้วยความสูง 237 ฟุตซึ่งหากนำมาตั้งบนบกก็จะสูงกว่าหอไอเฟลในกรุงปารีส ความยาวเรือ 1,112 ฟุต น้ำหนัก 158,000 ตัน โถงภายในเรือมีความสูงเท่ากับตึก 14 ชั้น และบนนั้นก็มีดาดฟ้าให้ผู้โดยสารขึ้นไปนั่งๆนอนๆกินลมชมวิวถึง 15 ดาดฟ้าด้วยกัน รอยัล แคริบเบียน ครูซเซส บริษัทเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวและพาณิชย์ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในเมืองไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของเรือยักษ์ดังกล่าว ว่ากันว่าแม้แต่กัปตันเรือเองก็ยังเดินสำรวจได้ไม่ทั่วทุกซอกทุกมุมของเรือลำนี้ด้วยความใหญ่โตมโหฬารของมันนั่นเอง ก่อนที่จะมีการตัดริบบิ้นฟาดขวดแชมเปญปล่อยเรือลงน้ำเอาฤกษ์เอาชัยตามธรรมเนียม เรือฟรีดอม ออฟ เดอะ ซีส์ ทดสอบการเดินทางมาแล้วในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยล่องจากเมืองฮัมบวร์กในประเทศเยอรมนีไปยังเมืองออสโล ประเทศนอรเว บรรทุกเฉพาะลูกเรือและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำเรือเท่านั้น ส่วนการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทางพักผ่อนหย่อนใจเป็นชุดแรกกำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนหน้า ต้นทางคือเมืองไมอามี่ จุดหมายปลายทางคือหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียนฝั่งตะวันตก กว่าจะได้เรือสวยสุดหรูออกมาขนาดนี้ รอยัล แคริบเบียนฯ ควักเงินลงทุนไปถึง 800 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 32,000 ล้านบาท แต่บริษัทก็หวังว่าในการออกเดินทางแต่ละครั้งซึ่งจะบรรทุกผู้โดยสารได้คราวละ 4,000 กว่าคน จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างเนืองแน่น เพราะบนนั้นเปรียบได้กับสวรรค์ลอยน้ำที่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนคาดหวัง แถมด้วยบางอย่างที่คนส่วนใหญ่ไม่คาดคิดว่าจะมี เช่นทะเลจำลองที่ติดตั้งอุปกรณ์ทำคลื่นเทียมเพื่อให้นักเล่นกระดานโต้คลื่นได้ลงไปเล่นกัน นอกจากนี้ยังมีลานสเก็ตน้ำแข็ง เวทีมวย และหน้าผาเทียมความสูงเท่าตึก 13 ชั้นเอาไว้ปีนป่ายท้าทายความแข็งแกร่งของร่างกาย สนนราคาความสุขบนเกลียวคลื่น เริ่มจาก 1,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 76,000 บาท) เป็นตั๋วแพ็คเกจ 7 วันสำหรับผู้โดยสารที่มาเป็นคู่ ราคานี้เฉพาะในช่วงโลว์ซีซั่น แต่ถ้าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ห้องขนาดเดียวกัน (มีระเบียงส่วนตัว) จะขยับราคาขึ้นไปได้เกือบๆ 2,500 ดอลลาร์ (100,000 บาท) ห้องชุดสุดหรูจะมีราคาถึง 22,000 ดอลลาร์ (880,000 บาท) เห็นราคาน่าขนลุกแบบนี้อย่าคิดว่าจะไม่มีใครกล้าจ่าย เพราะขนาดยังไม่เริ่มเปิดบริการอย่างเป็นทางการ เจ้าห้องเดอลุกซ์ที่ว่าน่ะ มีคนจองเต็มแล้วไปจนกระทั่งถึงปี 2551 ! ใครนึกคันมือคันไม้อยากควักกะตังค์ใจจะขาด เชิญรอไปอีก 2 ปีนะจ๊ะ + เปรียบเทียบความมหึมาจากอดีต-ปัจจุบัน เรือไททานิค (Titanic) น้ำหนัก 46,329 ตัน บรรทุกผู้โดยสาร กว่า 3,500 คน เงินลงทุน 7.5 ล้านดอลลาร์ (ปีค.ศ. 1912) เรือควีน แมรี่ 2 (Queen Mary 2) น้ำหนัก 151,400 ตัน บรรทุกผู้โดยสาร ประมาณ 3,000 คน เงินลงทุนราว 800,000 ล้านดอลลาร์ เรือฟรีดอม ออฟ เดอะ ซีส์ (Freedom of the Seas) น้ำหนัก 158,000 ตัน บรรทุกผู้โดยสารได้กว่า 4,000 คน เงินลงทุนประมาณ 800,000 ล้านดอลลาร์ ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซี เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดเพื่อลบล้างความรู้สึกน่าเบื่อหน่ายเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในเรือสำราญเป็นระยะเวลานานทิ้ง เรือลำนี้จึงไม่ต่างจาก การเนรมิตรเมืองขึ้นมาเมืองหนึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมากเกินความจำเป็นที่หาไม่ได้ในเรือสำราญลำอื่น ไม่ว่าจะป็น วินเซิร์ป แห่งแรกแห่งเดียวในโลกที่ถูกบรรจุไว้ในเรือสำราญ H20 ศูนย์รวมแห่งสวนน้ำ สวนสนุก ลานสเก็ต สนามมวย ถนนช้อปปิ้งยาวเฟื่อย 400 กว่าฟุต ที่มีไว้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นการบริการ ที่นอกเหนือจากที่เรือสำราญทั่วไปเพื่อสร้างความสนุกสนานให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้จักคำว่า "เบื่อ" โดยมีกิจกรรมทำตลอดทั้งวัน ส่วนการเลือกเปิดตลาดที่อังกฤษ ส่วนหนึ่ง เพราะต้องการรุกตลาดยุโรป หลังจากเป็นที่รู้จักในอเมริกากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยเส้นทางที่เรือลำนี้ให้บริการ เป็นเส้นทาง แถบ ทะเล แคลลิเบี้ยนเวสเทอร์น แคลิเบี้ยน แม็กซิโก 7 คืน เริ่มจากไมอามี่ ไปแม็กซิโก จอห์นทาวน์ จาไม้ก้า เฮติ ฯลฯ แล้วย้อนไปไมอามี่ใหม่ โดยจะเริ่มออกเดินทางทุกวันอาทิตย์ สนทราคาค่าบริการอยู่ที่เริ่มต้น 800 เหรียญยูเอส หรือราว 30,000 บาท สำหรับห้องพักที่ไม่มีหน้าต่าง และราคาสำหรับห้องพักแบบสวีทอยู่ที่ 3,750 เหรียญยูเอส หรือราว 142,500 บาทสำหรับห้องพักที่อยู่ได้ 14 คน เน้นความเป็นส่วนตั๋ว ส่วนตัว เหมาะสำหรับตลาดครอบครัว ราคานี้เป็นราคาค่าบริการเรือ แต่ถ้าเดินทางจากเมืองไทยก็ต้องรวมค่าตั๋วเครื่องบิน และอื่น ๆ อีก ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซี ใช้เม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านเหรียญยูเอส โดยต่อขึ้นที่ประเทศฟินแลนด์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีน้ำหนักรวม 160,000 ตัน มีทั้งหมด 20 ชั้น แต่ให้บริการเพียงแค่ 15 ชั้น แต่ละชั้นยังได้จัดแบ่งการใช้สอยไว้อย่างเป็นระบบ เริ่มจากชั้น 2 บางส่วนจะเป็นห้องพัก , ห้องประชุม ,มีลานไอซ์สเก็ตจุคนได้ 1,200 คน กลางคืนจะมีโชว์ระดับโลก อาทิ ไอซ์ดอดคอม และห้องอินเตอร์เนต ชั้น 3 มีอาร์ตแกลลอรี่ โฟโต้ มีการแสดงของตากล้องที่มีชื่อเสียง และมีดิสโก้เทค ห้องอาหาร มีการตกแต่งด้วยภาพเขียน มีภาพถ่ายของลีโอนาร์โด ดาวินชี ชั้น 4 จะมีห้องคาสิโน ชั้น 5 จะเป็นถนนสายช้อปปิ้ มีความยาวของถนนไปจนถึงสุดปลายอีกด้านหนึ่งของเรือ ประมาณ 445 ฟุต หรือประมาณ 103 เมตรกว่า เรียกว่าช้อปกันไม่เบื่อ เพราะ ซ้าย-ขวามีร้านค้า เรียงรายให้เลือกซื้อ เลือกใช้บริการด้านความงามทั้งร้านทำผมคุณผู้ชาย ร้านหนังสือ ร้านขายของที่ระลึก ร้านไอศรีม ผับสไตล์อังกฤษ แชมเปญบาร์ ร้านกาแฟชื่อดัง เรียกว่ามีบริการหลากหลายจนเลือกไม่ถูก ชั้น 6 เป็นห้องเพรสซิเด้นท์สวีท เป็นห้องพักที่ค่อนข้างหรูหรา ส่วนชั้น 7 ?ชั้น 9 จะเป็นห้องพักทั่วไป ชั้น 10 จะเป็นในส่วนของเอนเตอร์เทนเม้นท์ ชั้น 11 จะเป็นร้านอาหาร ชั้น 12-ชั้น 13 เป็นส่วนของเอดเวนเจอร์ และจะเป็น H2O โซนก็จะเป็นสวนน้ำสำหรับเด็กและครอบครัว ส่วนบริการอื่นๆ ก็ไล่เลียงกันมาตามชั้นต่าง ๆ อาทิ เกมส์ สนามบาสเก็ตบอล ,วอลเล่ย์บอล สนามกอล์ฟมินิ 9 หลุม สระว่ายน้ำ เลานจ์ที่อยู่บนยอดสูงสุดของเรือทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลในมุมมอง 360 อาศาทีเดียว ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซี จุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 4 พันคน ไม่รวมลูกเรืออีกร่วมพันคน ทุกอย่างฟรีหมดยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรืออาหารชนิดพิเศษที่ต้องจ่ายเพิ่มเป็นค่าจอง หมายความว่าลูกค้าโทรเข้าไปจองก็จะเสียค่าจอง 20 เหรียญหรือ 760 บาท หลังจากนั้นจะสั่งอะไรก็ได้ มีบริการรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง สามารถสั่งอาหารรับประทานได้ตลอดเวลา ข้อมูลภาษาไทย จาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ข้อมูลภาพจาก Internet


จาก www.dek-d.com


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น